สผ. ร่วมประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ติดตามเร่งรัดการแก้ไขปัญหามลพิษจากกากอุตสาหกรรม
พลตำรวจเอก พัชวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่รองประธานกรรมการ คนที่ 2 นายประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) มีมติมอบกระทรวงอุตสาหกรรมกำกับดูแลโรงงานที่เก็บกากของเสียอัตรายให้เป็นไปตามกฎหมาย และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยเร่งด่วน และตั้งอนุกรรมการเพื่อกำกับ ดูแลแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดในทุกจังหวัด พร้อมทั้งรับทราบความก้าวหน้าการยกระดับการปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤต ประจำปี 2567 นอกจากนี้ ได้เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2563 ออกไปอีก 2 ปี เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างการบังคับใช้ของกฎหมายรวมทั้ง รับทราบรายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2566
ทั้งนี้ กก.วล. ยังได้ให้ความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม 8 โครงการ คือ (1) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเขื่อนจุฬาภรณ์ (2) โครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ลำพูน3 – สบเมย (3) โครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 115 กิโลโวลต์ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ ชุดที่ 1 ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ (4) โครงการงานขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้า บ้านผาผึ้ง จ.ตาก (5) โครงการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่อทำปูนขาว ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาไพบูลย์ (6) โครงการทางแยกบนทางหลวงหมายเลข 311 จุดตัดทางแยกศาลหลักเมือง ถึงจุดตัดทางแยกไกรสรราชสีห์(รวมสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) จ.สิงห์บุรี (7) โครงการถนนสายแยก ทล.2 – บ.พระยืน อ.เมือง, พระยืน จ.ขอนแก่น และ (8) โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยกำชับให้เจ้าของโครงการทั้ง 8 โครงการ ต้องดำเนินการตามมาตรการฯ ในรายงานฯอย่างเคร่งครัด และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป