รศ. ดร.จรัล ลีรติวงศ์ สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ Prof. Dr. David M. Johnson
Biological Science Department, Ohio Wesleyan University, Delware, Ohio, U.S.A ดร.จิรัฐิ สัตถาพร ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และนายสุเนตร การพันธ์ สถานีวิจัยสัตว์ป่า ป่าพรุ ป่าฮาลา-บาลา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลก
ในสกุลบุหงาเซิง (Friesodielsia Steenis) ของพืชวงศ์กระดังงา (Annonaceae) จำนวน 2 ชนิด ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ ฐาน WOS
ระดับ Quartile 3 ชื่อวารสาร Phytotaxa ฉบับที่ 589 (1) ปี ค.ศ. 2023 โดยพืชสกุลบุหงาเซิง จำนวน 2 ชนิด
สำรวจพบจากป่าฮาลาของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยรายงานเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก (New species) ได้แก่
1. บุหงาเซิงเบตง: Friesodielsia betongensis Leerat.เป็นไม้พุ่มรอเลื้อยหรือไม้เถาเนื้อแข็ง มีลักษณะเด่นคือ มีดอกสีเหลือง โดยมีสีเขียวบริเวณโคนกลีบ
กลีบดอกชั้นนอกมีลักษณะภาคตัดตามขวางเป็นรูปสามเหลี่ยม กลีบดอกชั้นในมีความยาวมากกว่าความยาวครึ่งหนึ่งของกลีบดอกชั้นนอก ขึ้นอาศัยในบริเวณป่าดิบเขา
อยู่ระดับความสูงเหนือระดับทะเล 1,000-1,200 เมตร พบออกดอกและผลช่วงเดือนพฤษภาคม
โดยที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์: เป็นการตั้งชื่อให้กับสถานที่ที่มีการค้นพบพืชชนิดนี้ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
2. บุหงาเซิงฮาลา: Friesodielsia chalermgliniana Leerat. เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีลักษณะเด่นคือมีใบประดับขนาดใหญ่รูปไข่กว้าง กลีบดอกสีเหลือง มีกลีบดอกชั้นนอกที่มีลักษณะภาคตัดตามขวางเป็นรูปสามเหลี่ยม กลีบดอกชั้นในมีความยาวมากกว่าความยาวครึ่งหนึ่งของกลีบดอกชั้นนอก ขึ้นอาศัยในบริเวณป่าดิบชื้น อยู่เหนือความสูงเหนือระดับทะเลประมาณ 500 เมตร พบออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคม
โดยที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์: เป็นการตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการศึกษาและวิจัยพืชวงศ์กระดังงาของประเทศไทย และเป็นผู้ให้ความรู้ นำออกภาคสนามในการสำรวจ และสนับสนุนให้ผู้แต่งท่านแรกในการศึกษาพืชวงศ์กระดังงาของประเทศไทย
สามารถศึกษางานวิจัยเพิ่มเติมได้ที่ https://www.biotaxa.org/Phytotaxa/article/view/phytotaxa.589.1.7
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.psu.ac.th/?page=news&news_code=1323&fbclid=IwAR1HsJbA0bXaqk8F3FK4Lft5TOMmajFhtRiUNo0HAqtZ5vrCs3x-K3AhXas