การดำเนินงาน

การประชุม COP CBD
- การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 10 (Conference of the Parties to the Convention on Biological Diversity: CBD COP10) เมื่อปี พ.ศ. 2553
ณ เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น ได้เห็นชอบเป้าหมายไอจิ (Aichi Biodiversity Targets) โดยเป้าหมายที่ 11 ระบุว่า “ประเทศสมาชิกจะต้องอนุรักษ์พื้นที่อย่างน้อยร้อยละ 17 บนบก และร้อยละ 10 ในทะเล
ในพื้นที่คุ้มครอง และพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตพื้นที่คุ้มครอง (Other Effective Area-based Conservation Measures: OECMs) ภายในปี พ.ศ. 2563” - การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 14 (CBD COP14) เมื่อปี พ.ศ. 2561 ณ เมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ ได้รับรองนิยามและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ OECMs อย่างเป็นทางการครั้งแรก
- การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 15 (CBD COP15) เมื่อปี พ.ศ. 2565 ณ นครมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ได้รับรองกรอบงานคุนหมิง – มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก หรือ The Biodiversity Plan เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพของภาคีอนุสัญญาฯ ซึ่งเป้าหมายที่ 3 ได้กำหนดเป้าหมาย การเพิ่มพื้นที่คุ้มครอง (Protected Areas) บนบก แหล่งน้ำในแผ่นดิน ทะเลและชายฝั่ง และ OECMs อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573 หรือ เป้าหมาย 30X30 ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ฟื้นฟู
ความหลากหลายทางชีวภาพ อนุรักษ์ชนิดพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่น รวมถึงลดกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ OECMs ได้ถูกกล่าวถึงอีกครั้ง ในฐานะเป็นเครื่องมือสำหรับการบรรลุเป้าหมาย 30X30 ข้อมูลจากเว็บไซต์ Protected Planet ซึ่งเป็นฐานข้อมูลพื้นที่คุ้มครอง และพื้นที่ OECMs ของโลก ระบุว่า ปัจจุบันทั่วโลกพื้นที่ OECMs กว่า 6,000 แห่ง โดยส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะหน่วยประสานงานกลางแห่งชาติของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ พ.ศ. 2566 – 2570 โดยกำหนดเป้าหมายในการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ 12 เป้าหมาย ที่สอดคล้องกับเป้าหมายโลกตามกรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออลฯ และบริบทของประเทศ ซึ่งในเป้าหมายที่ 2 ได้กำหนดให้มีการเพิ่มพื้นที่คุ้มครองและพื้นที่ OECMs ของประเทศอย่างน้อย ร้อยละ 23 (พื้นที่บนบก) ร้อยละ 15 (พื้นที่ในทะเล) ภายในปี พ.ศ. 2570 และภายในปี พ.ศ. 2573 มีพื้นที่คุ้มครองและพื้นที่ OECMs ของประเทศอย่างน้อยร้อยละ 30 ทั้งบนบกและในทะเล เพื่อสนับสนุน การบรรลุเป้าหมายของโลกบนพื้นฐานความพร้อมและศักยภาพของประเทศ โดยพื้นที่ OECMs จะช่วยเติมเต็มช่องว่างการคุ้มครองดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ นอกเหนือจากการประกาศพื้นที่คุ้มครองตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ โดยสนับสนุนให้ภาคประชาชนและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการทำงาน