Just another WordPress site

“ปลาภัทราชัน”ฟอสซิลปลาอายุ 115 ล้านปี พันธุ์ใหม่ของโลก

วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ห้องโคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีการเปิดงานมหกรรมจีโอพาร์คและฟอสซิล (Geopark and Fossil Festival 2023) และได้เปิดการแถลงข่าว การค้นพบฟอสซิล ปลาพันธุ์ใหม่ของโลกอายุ 115 ล้านปี “โคราชเอเมีย ภัทราชันไน” และพันธุ์พืชโบราณชนิดใหม่ของโลก 3 ชนิดในแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ ที่บ้านโกรกเดือนห้า ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินฯ ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งการวิจัยดำเนินการโดย ผศ.ดร.อุทุมพร ดีศรี จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับนักวิจัยจากสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ, พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟูกุอิ ประเทศญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยเจนีวา และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 

ฟอสซิลปลาดังกล่าว เป็นปลากระดูกแข็งก้านครีบอ่อน คล้ายสกุลเอเมีย (Amia) แต่เป็นสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก คณะผู้วิจัยจึงได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “ปลาภัทราชัน” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ โคราชเอเมีย ภัทราชันไน (Khoratamia phattharajaniทั้งนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่เป็นกษัตริย์ผู้ทรงเชี่ยวชาญเรื่องปลาและรักปลา รวมทั้งมีสายพระเนตรยาวไกล เช่น การทรงขอพันธุ์ปลานิลจากสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ. 2508 จำนวน 50 ตัว มาขยายพันธุ์ในพระราชวังนับหมื่นตัวและมอบให้กรมประมงนำไปขยายพันธุ์ต่อ แจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศนำไปเลี้ยงเพื่อการขายและบริโภคจนสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนโปรตีนของประชาชนไทยได้ ทั้งนี้คำว่า “ภัทราชัน” มาจากคำว่า “ภัทร+ราชัน” อันหมายถึง “พระภัทรมหาราช” ที่ประชาชนถวายพระราชสมัญญานามแด่รัชกาลที่ 9

อีกทั้งนักวิจัยของสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พอล.เจ.โกรดิ และคณะ ยังได้วิจัยพบพืชพันธุ์ใหม่ของโลกอีก 3 ชนิด ได้แก่ “มะพอกโคราช” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Parinari khoratensis โดยชื่อชนิด “khoratensis” มาจากจังหวัดนครราชสีมาที่เป็นแหล่งค้นพบซากดึกดำบรรพ์ ส่วน “มะพอกของฮิลล์” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Parinari hilliana โดยชื่อชนิด “hilliana” ตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้กับ Arthur Hill ซึ่งเป็นนักพฤกษศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องผล ซากดึกดำบรรพ์ทั้งสองชนิดนี้พบในสมัยไมโอซีนตอนปลาย แหล่งบ่อทรายพระพุทธ ตำบลพระพุทธ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา การค้นพบซากดึกดำบรรพ์ทั้งสองชนิดนี้เป็นการค้นพบผลมะพอก สกุล Parinari เป็นครั้งแรกของเอเชียและคาบสมุทรแปซิฟิก รวมถึงแสดงให้เห็นว่าพืชสกุลนี้ปรากฏในเขตร้อนในสมัยไมโอซีน ก่อนหน้านี้มีการค้นพบแล้วในสมัยไมโอซีนที่แอฟริกา (เขตเอธิโอเปีย) และปานามา (เขตนีโอโทรปิก) โดยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Acta Palaeobotanica เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565

และชนิดที่สาม คือ “สนห้าใบหนองหญ้าปล้อง” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Pinus nongyaplongensis โดยชื่อชนิด “nongyaplongensis” มาจากแอ่งหนองหญ้าปล้องที่เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ซึ่งอยู่ในสมัยโอลิโกซีนตอนปลายหรือไมโอซีนตอนต้น แหล่งเหมืองสแกงาม แอ่งหนองหญ้าปล้อง อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี ซากดึกดำบรรพ์ดังกล่าวเป็นการค้นพบสนห้าใบครั้งแรกของประเทศไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พอล.เจ.โกรดิ ร่วมกับ นายพลาเดช ศรีสุข ดำเนินการวิจัยและได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Review of Palaeobotany and Palynology เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.thairath.co.th/news/local/2700440

และเพจ กรมทรัพยากรธรณี https://www.facebook.com/photo?fbid=564392659215244&set=a.236928755294971

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept

Privacy & Cookies Policy