พระราชดำรัส

ทรงคุ้มครองพรรณไม้

“…กล้วยไม้ไทยมีความงามมากและมีกลิ่นหอมมาก ซึ่งนับวันจะหาดูได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ไปทุกขณะ ขอให้ช่วยกันหาทางรวบรวมและอนุรักษ์ไว้พร้อมกับการขยายพันธุ์ให้มีปริมาณมากพอที่จะคืนสู่ป่าธรรมชาติได้…”

ทรงคุ้มครองสัตว์ป่า

“…กระจงนี่ชาวบ้านบอกกับข้าพเจ้าว่าเนื้ออร่อยมากเชียวท่าน อร่อยเหลือเกิน บอกเขาว่าอย่าอร่อยเลยมันหายาก ต่างประเทศเขาบอกเป็นกวางที่เล็กที่สุดในโลก เพระฉะนั้นเราช่วยกันแพร่พันธุ์ดีกว่า อย่าไปกินมันเลยปรากฏว่าเขาเลี้ยงได้อย่างถูกต้อง เขาเลี้ยงได้ใกล้เคียงธรรมชาติโดยเขาค้นคว้าเอง…”

“…ชาวบ้านได้มีน้ำใจนำเต่ามาให้ข้าพเจ้า ข้าวเจ้าก็เลยบอกเขาว่าขอบใจที่ไม่ได้ฆ่าเต่า เป็นการอนุรักษ์สัตว์ และนี่ก็เป็นนกที่หาได้ยากแล้วในประเทศไทย ไม่ใช่แต่ประเทศไทย รู้สึกในหลายๆ ประเทศที่ป่ากำลังจะหมดไป ชาวบ้านก็ทราบว่ามีนโยบายโครงการรักษาอนุรักษ์สัตว์ป่า…”

“…ไก่ฟ้าของไทยที่เรียกว่า พญาลอ นี่เป็น… เขาใช้คำว่า สวยที่สุดและสง่าที่สุดของไก่ฟ้า แต่ว่าเพราะป่าถูกตัดไป จึงค่อยๆ สูญพันธุ์ไป อันนี้ไก่ฟ้าตัวนี้ไม่ใช่แต่สวยเฉยๆ ชอบฟังเพลงด้วย ข้าพเจ้าเลยเอาเทปมาเพื่อให้เขาอารมณ์ดี จะได้ออกแพร่พันธุ์ จะได้ให้ช่วยในอาชีพของราษฎรด้วยคือเขาอยู่ใกล้ราวป่า แล้วก็นาเขาไม่ผลิตผล เขาสามารถจะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่านี่ขายให้กับเรา ที่จะนำไปไว้ในป่าสงวน และต่อไปชาวบ้านก็จะไม่รู้สึกว่าป่านี่เป็นสิ่งที่กีดขวางเขาไม่ให้มีที่ดินที่อยู่อาศัย กลับจะถือว่าเป็นที่ที่ยังผลประโยชน์ให้เขาทุกๆ ทาง…”

“…เมื่อก่อนข้าพเจ้ายังไม่ประจักษ์อย่างถ่อยแท้ถึงความสูญเสียของทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของเรา แต่มาบัดนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่าเราหันมาตื่นตัวในการอนุรักษ์มากขึ้น จนถึงกับบรรจุลงในแผนพัฒนาแห่งชาติ แม้ว่ากว่าที่เราจะเริ่มตระหนักนั้นจะกินเวลาหลายสิปปีและสัตว์ป่ารวมทั้งพันธุ์ไม้ซึ่งเคยมีอยู่ในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลกอย่างเช่นเนื้อสมัน ได้สูญพันธุ์ไปแล้วหลายชนิดก็ตาม แต่ความผิดพลาดเหล่านี้คงจะเป็นบทเรียนให้เราอนุรักษ์ต่อไปด้วยความรอบคอบและถูกหลักวิธียิ่งขึ้น…”

ทรงคุ้มครองสัตว์ทะเล

“…ธรรมชาติแวดล้อมของเรา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเล และอากาศ มิได้เป็นเพียงสิ่งสวยๆ งามๆ เท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรัการดำรงชีวิตของเรา และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดีนี้ก็เท่ากับเป็นการปกปักรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลายของเราด้วย…”

ทรงคุ้มครองระบบนิเวศทะเลและชายฝั่ง

“…เราทิ้งปะการังเทียมต่างๆ ทำที่จังหวัดปัตตานี นราธิวาส ปัตตานีทำมากแล้วก็เฝ้าดูผล ปรากฏผลได้ดีมากและพอไปชาวบ้านก็บอกว่าจับปลาได้เกิดปลากเล็ก ปลาน้อย ปลาต่างๆ ในที่ที่ไม่เคยมีปลา…”

“…ตั้งแต่ทิ้งปะการังนี่ ปลาต่างๆ มามากขึ้นทุกที ชาวบ้านก็เป็นอันว่าสบายใจได้ จับปลาได้พอมีพอกิน เขาก็มาขอบใจข้าพเจ้า…”

“…พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สอนข้าพเจ้าเสมอว่า ป่าชายเลนให้ช่วยกันระวังรักษา เพราะว่าป่าชายเลน เหมือนสถานอนุบาลของสัตว์น้ำเล็กๆ ตอนที่เขายังเล็กๆ เขายังไม่สามารถเลี้ยงตัวได้ การที่มีป่าชายเลนก็ทำให้เขาเลี้ยงตัวได้ และรอดชีวิตเป็นปลาใหญ่ขึ้นมา เป็นกุ้งใหญ่ ปูใหญ่เจริญเติบโต เป็นอาหารของมนุษย์ต่อไป แต่ถ้าไม่มีป่าชายเลนแล้ว พันธุ์ปลา พันธุ์กุ้ง พันธุ์ปู ก็คงจะค่อยๆ สูญไป เพราะเท่ากับเป็นสถานอนุบาล นี่เป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสอนข้าพเจ้าไว้ ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาสนับสนุนป่าชายเลน และป่าต่างๆ…”

ทรงคุ้มครองระบบนิเวศแหล่งน้ำในแผ่นดิน

“…เราอยู่กับแผ่นดินนี้มานาน แต่เราไม่ทะนุถนอมไม่อะไรเลย เราอยู่อย่างฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย เช่น ในแม่น้ำ ลำคลอง พวกเราก็ทิ้งของเสีย แล้วเดี๋ยวนี้ทะเลกลายเป็นถังขยะ ทิ้งลงไปทำให้ของที่หายากอยู่แล้ว คือน้ำจืดก็เสียไปน้ำเน่า แม่น้ำเจ้าพระยาก็เน่าไปเยอะ และการเน่าของแม่น้ำเจ้าพระยาก็หมายถึงการสูญสิ้นพันธุ์ปลาต่างๆ ไปหลายสายพันธุ์ ซึ่งอันนี้น่าตกใจมาก เพราะว่าพวกเราก็รับประทานปลา ปลาดูจะเป็นอาหารที่ถูกที่สุดสำหรับคนยากคนจน เราก็ปล่อยให้ปลาสูญไปหลายสายพันธุ์แล้ว…”

ทรงคุ้มครองระบบนิเวศป่าไม้

“…ให้รักษาป่าให้มากที่สุด อย่าทำลายป่า เพราะว่า มนุษย์เรานี่ถ้าไม่มีป่าซึ่งเป็นทรัพยากรของโลก ป่าและสัตว์ป่าแล้วนี่ ชีวิตของคนเรานี่ไม่สมกับเป็นชีวิตคนเลยมันแห้งแล้ง ไม่ได้ยินเสียงนกร้อง ไม่ได้เห็นสิ่งที่สวยงามน่าดูต่างๆ…”

“…ถ้าเราตัดป่ามากๆ ข้าพเจ้าก็เกรงว่าน้ำของเรานี่ก็จะหมดไป ค่อยๆ ร่อยหรอไป ไม่สมดุลกับการเกิดของประชากรที่ต้องใช้น้ำ ป่าไม้นี้ช่วยซึมซับน้ำฝนไว้ใต้ดิน เรียกว่าทำน้ำใต้ดินแล้วค่อยๆ ระบายลงเป็นธารน้ำ เป็นลำคลองเป็นแม่น้ำที่ให้เราใช้เสมอมา เราจึงควรถนอมรักษาป่าไว้ให้คงอยู่เป็นต้นน้ำลำธาร เพื่อว่าลูกหลานเราจะได้ไม่ลำบาก…”

“…คนไทยทุกคนตระหนักในความสำคัญของป่าไม้ว่ามีประโยชน์นานประการนอกเหนือจากจะช่วยขจัดอาการที่เป็นพิษ เป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสัตว์ และเป็นคลังแห่งยารักษาโรคหลายพันหลายหมื่นชนิดที่เราได้ใช้กันอยู่ตลอดจนที่กำลังรอการค้นคว้าวิจัยอีกเป็นจำนวนมากแล้ว เรายังทราบดีว่า ป่าไม้ทรงคุณค่ามหาศาลในการผลิตน้ำให้แก่เรา น้ำซึ่งเป็นความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ รวมไปถึงการเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการพัฒนาต่างๆ ของชาติ เราจึงมีการรณรงค์ให้ปลูกป่าและปลูกต้นไม้ตามสถานที่ทั่วไปอย่างขันแข็ง เพื่อทำนุบำรุงสภาพแวดล้อม อันจะส่งผลดีไปถึงชาวโลกทั้งมวลต่อไปด้วย…”

“…เดี๋ยวนี้ เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลายมาก ก็อยากให้ทุกท่านสนับสนุนการรักษาป่า ไม่ใช่เพื่อรักษาสัตว์ป่าอย่างเดียว แต่เพื่อป่าจะได้เป็นที่เก็บน้ำน้ำฝน ป่าจะได้เก็บน้ำไว้ใต้ดิน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่เรียกว่ามีพืชต่างๆ นานา ซึ่งใช้เป็นยา สมุนไพร อะไรก็ได้ที่เราจะค้นคว้าได้และเป็นที่พึ่งของพืชเศรษฐกิจต่างๆ…”

“…เมื่อป่าหมดไปคนเราก็จะอยู่ไม่ได้ คนกับป่าจึงต้องอยู่ด้วยกัน คือคนคอยดูแลรักษาป่า และป่าก็จะอำนวยประโยชน์แก่คน เป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน…”